วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2558

ต้นบารมีรัตนโกสินทร์ ไม้ประดับมงคลเสริมบารมี

ไม้มงคลช่วยเสริมบารมี

ต้นบารมีรัตนโกสินทร์


ว่านเสริมบารมี
ที่เห็นในภาพนี้เป็นอีกหนึ่งไม้ประดับมงคลที่คนไทยเรานิยมปลูกเอาไว้เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับครอบครัว และคิดว่าใต้ชายคาหรือในสวนไม้ประดับในหลายๆบ้านคงมีไว้ในครอบครองกันแล้ว เป็นอีกหนึ่งไม้ประดับที่ผมเพิ่งซื้อมาจากตลาดนัดในเมืองเมื่อไม่นานนี้เอง พ่อค้าเขาบอกว่ามันคือ “ต้นเสริมบารมี” แต่ชื่อจริงๆของมันก็คือ “ต้นบารมีรัตนโกสินทร์” เป็นไม้พุ่มยืนต้นขนาดปานกลางโตเต็มที่จะสูงประมาณ 2-3 เมตร เป็นไม้ประดับที่จัดอยู่ในตระกูล “โกศล” มีลำต้นสีเขียวอ่อนๆ ก้านใบมีสีขาวลักษณะปลายใบแหลมสวยงาม และยังจัดว่าเป็นอีกหนึ่งไม้ประดับมงคลที่นิยมของคนไทยเรามาช้านาน ซึ่งคนในสมัยก่อนมักมีความเชื่อว่า ถ้าบ้านหลังใดปลูกต้นไม้ชนิดนี้เอาไว้ จะช่วยเสริมบารมี เป็นมหาเสน่ห์ และเมตตามหานิยมยิ่งนัก ทำให้คนรักใคร่ มีโชคลาภ และมีคนยำเกรง มีอำนาจบารมี จึงมักเรียกติดปากว่า “ต้นเสริมบารมี” 

ว่านเสริมบารมี
ส่วนวิธีการปลูกและการขยายพันธุ์ก็ทำได้ไม่ยาก เพราะส่วนใหญ่แล้วจะนิยมขยายพันธุ์ด้วยการแยกหน่อไปปลูก จะปลูกไว้ในกระถางตั้งไว้ในที่ร่มหรือจะปลูกลงดินก็ได้ทั้งนั้น แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะนิยมปลูกไว้ในกระถางตั้งไว้ในที่ร่มมีแสงแดดรำไร หรือถ้าไม่สะดวกจะปลูกลงดินกลางส่วนหย่อมในที่โล่งแจ้งก็ได้ทั้งนั้น ส่วนดินสำหรับปลูกควรเป็นดินร่วน แนะนำให้ผสมปุ๋ยคอกเก่าและขี้เถ้าแกลบลงไปด้วย จะทำให้มีใบเขียวสดอยู่ตลอดเวลา การให้น้ำพอให้เปียกชื้นก็พอ คือไม่ต้องแฉะมาก เพราะเป็นไม้ประดับที่ไม่ชอบน้ำขัง การปลูกไม้ประดับนอกจากจะได้ชื่นชมความสวยงามแล้ว ยังช่วยเพิ่มออกซิเจนในอากาศ แถมยังช่วยเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตของเราและครอบครัวได้อีกด้วย

ขณะกินข้าว เกิดมือชนกัน จะมีแขกมาเยือน

ความเชื่อโบราณ


เรื่องราวของความเชื่อหรือคำบอกเล่าจากปากต่อปากที่เล่าสู่กันฟังสืบต่อกันมาช้านาน ถือว่าเป็นของคู่กับคนไทยเรามาช้านาน ตั้งแต่เล็กจนโตเราอาจจะเคยได้ยินคำพูดของผู้ใหญ่ หรือคำอุทานออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นมาเช่น ขณะกำลังนั่งกินข้าว มือเกิดชนกันกับคนที่นั่งกินด้วยหรือสมาชิกในครอบครัว คนโบราณหรือคนเฒ่าคนแก่ ก็มักเชื่อว่าจะมีแขกมาเยือนถึงบ้านถึงเรือน เพราะในสมัยโบราณ ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่มีอินเตอร์เน็ต หรือระบบติดต่อสื่อสารที่สะดวกสบายเหมือนในยุคปัจจุบัน เพราะฉะนั้นเวลาจะนัดหมายพบเจอกับญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงหรือใครก็ตาม ก็ต้องรอให้พบเจอกันก่อน แล้วค่อยนัดพบกันอีกครั้งในช่วงเป็นการเป็นงานหรือหน้าเทศกาลต่างๆ แต่คนโบราณเขาก็มีวิธีสังเกตหรืออาจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ามีลางสังหรณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้าได้อย่างไม่น่าเชื่อ อย่างเช่นว่า  ในขณะที่นั่งล้อมวงรับประทานอาหารกันนั้น หากคน 2 คน ที่นั่งกินข้าวด้วยกันในวง เอื้อมมือไปตักหรือหยิบอาหารพร้อมๆกัน และเกิดชนกันกลางสำรับกับข้าว คนโบราณมักเชื่อว่าไม่วันนี้ หรือวันพรุ่ง จะต้องมีแขกมาเยือนกันถึงเรือนชานอย่างแน่นอน และก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเหมือนกัน พอเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่วันก็จะมีแขกมาเยือนถึงเรือนชานอย่างนั้นจริงๆ จะว่าเป็นเรื่องบังเอิญ หรือความเชื่อทีว่านี้มีส่วนของความเป็นจริงอยู่บ้าง ให้เราลองสังเกตเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเราเองหรือคนรอบข้างของเรา ก็แล้วกันนะครับ

วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2558

ว่านแสงอาทิตย์ ว่านมงคล เมตตามหานิยม

ว่านแสงอาทิตย์ หรือว่านกุมารทอง

ดอกสีแดงๆ ส้มๆ และสวยๆ ที่เห็นในภาพนี้ผมจำไม่ได้ว่าปลูกได้กี่เดือน แต่คร่าวๆน่าจะประมาณ 5 เดือนขึ้นไป มันคือ “ว่านแสงอาทิตย์” ที่ไปขอแบ่งมาจากคนข้างบ้าน โดยเอาหัวมาปลูกลงดินไว้จนลืมไปเลยว่าปลูกไปได้นานกี่เดือนแล้ว และว่านแสงอาทิตย์ที่ว่านี้ก็มีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละท้องถิ่นเช่น ในเขตภาคกลาง และภาคอีสาน มักเรียกว่า “ว่านแสงอาทิตย์” เพราะมีเกสรดอกที่ยาวเป็นรัศมีออกมาคล้ายแสงพระอาทิตย์นั่นเอง ส่วนภาคเหนือนิยมเรียก “ว่านกระทุ่ม ว่านตะกร้อ” หรือบางครั้งอาจเรียกดอกว่านชนิดนี้ว่า “ดอกพฤษภา”

ว่านแสงอาทิตย์
 “ว่านแสงอาทิตย์” เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในแถบทวีปแอฟริกาเขตร้อน เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กที่จัดอยู่ในวงศ์พลับพลึง ลำต้นเป็นหัวเจริญอยู่ใต้ดิน ลักษณะใบเป็นใบรีแกมรูปไข่ กว้างประมาณ 5 - 8 เซนติเมตร ยาวประมาณ 15 - 20 เซนติเมตร เป็นพืชใบเดี่ยวเรียงวนสลับรอบต้น ปลายใบมีลักษณะมน ขอบใบเรียบ ว่านชนิดนี้จะออกดอกในช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม และดอกของว่านชนิดนี้จะออกเป็นช่อโผล่ออกมาจากกอ มีสีแดงหรือสีแดงอมส้มสวยงามมาก แต่น่าเสียดายที่ดอกของว่านชนิดนี้จะบานอยู่ประมาณ 10 วันก็จะร่วงโรยไป

การปลูกว่านแสงอาทิตย์

ในการปลูกและการขยายพันธุ์ว่านแสงอาทิตย์ โดยส่วนใหญ่แล้วจะนิยมแยกหัวไปปลูก แทนการเพาะเมล็ดนะครับ เพราะการเพาะเมล็ดนั้น จะใช้เวลานานมาก คือประมาณ 6 - 7 ปีถึงจะมีดอกให้เราได้ชม ส่วนดินสำหรับเพาะปลูกนั้น แนะนำให้ใช้ดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี จะปลูกไว้ในกระถาง หรือปลูกลงดิน ในที่ร่มหรือที่แจ้งก็ได้ทั้งนั้นครับ

ว่านแสงอาทิตย์
ความเชื่อเกี่ยวกับ “ว่านแสงอาทิตย์”


“ว่านแสงอาทิตย์” นอกจากจะมีดอกบานคล้ายลำแสงของพระอาทิตย์ที่มีความสวยงามแล้ว คนโบราณยังนิยมปลูกไว้ประจำบ้าน เป็นว่านเสี่ยงทาย และยังมีความเชื่ออีกด้วยว่า ถ้าผู้ใดปลูกว่านชนิดนี้ขึ้นโดยที่ว่านไม่ตาย เมื่อถึงคราว่านออกดอกผู้ปลูกก็มักจะมีโชคลาภเข้ามาหาตัว และยังมีความเชื่ออีกว่า ว่านแสงอาทิตย์เป็นว่านมงคล มีสรรพคุณทางด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี และเมตตามหานิยม และเป็นว่านมหาเสน่ห์ยิ่งนัก ส่วนอีกหนึ่งตำราโบราณท่านมักเรียกว่านชนิดนี้ว่า “ว่านกุมารทอง” เพราะลักษณะของหัวที่มีรากเป็นกระจุก ดูคล้ายเด็กผมจุกนั่นเอง และถ้าจะให้ดีควรปลูกว่านกุมารทองในวันอังคาร และถ้าเป็นวันอังคารเดือน 6 ก็จะยิ่งเพิ่มความขลังมากยิ่งขึ้น นั่นเองครับ